วันอาทิตย์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

สรุปงาน GDT 407 ครั้งที่ 1


การเรียนวิชา GDT 407 นวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการศึกษา
วันอาทิตย์ที่ 14 พฤศจิกายน 2553



กระบวนการทางเทคโนโลยีสารสนเทศและองค์ประกอบ




จากนั้นคลิกที่ ลงทะเบียน Gmail [Sing Up For Gmail] หรือสร้างบัญชี จะปรากฏหน้าต่างขึ้น


พิมพ์รายละเอียดตามที่ปรากฏให้ครบดังนี้
1. First name : ชื่อ ใส่ชื่อเราลงไป
2. Last name : นามสกุล ใส่นามสกุลเราลงไป
3. Desird Login Name ชื่อการเข้าสู่ระบบที่ต้องการ
4. Check availability! คลิกเพื่อตรวจสอบว่ามีผู้ใช้แล้วหรือยัง
5. Choos a password รหัสผ่าน
6. Re-enter a password กรอกรหัสผ่านอีกครั้ง
7. Security Question เลือกคำถามที่ต้องการ
8. Answer คำตอบ
9. Secondary email เมล์สำรองเพื่อแจ้งปัญหา
10. Location เลือกเป็น ราชอาณาจักรไทย
11. Word Verification พิมพ์คำตามที่ปรากฎในรูป
12. คลิก I accept Create my account (ฉันยอมรับโปรดสร้างบัญชีของฉัน)

จากนั้นจะปรากฏเป็น Gmail ดังภาพ
 

การนำเมล์ไปใช้งาน
1. ทำการเลือกแถบเมนูด้านซ้ายมือเพื่อเลือกใช้งานในแบบต่างๆ 


  • ถ้าต้องการส่งจดหมายให้เลือกเมนู "เขียนจดหมาย" และจะมีรูปแบบให้เขียนดังรูป

1.1 ทำการเลือกกล่อง "ถึง" เพื่อทำการใส่ e-mail ของผู้ที่ต้องการเขียนจดหมายถึง และรวมถึงการใส่ "หัวเรื่อง" เพื่อเป็นการบอกว่าจดหมายนี้เกี่ยวกับเรื่องอะไร
1.2 ทำการเขียนข้อความลงในกล่องข้อความเมื่อเขียนเสร็จก็สามารถปรับแต่งข้อความได้เหมือนการใช้ MS-word 

1.3 การแทรกไฟล์ (File Attachment) ในการส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์นี้สามารถทำการแทรกไฟล์ทั้งข้อความตัวอักษร รูปภาพ ไปกับจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ได้

1.4 กดปุ่ม "ส่ง" สำหรับการส่งจดหมายที่เขียนเีีรียบร้อยแล้ว
  • การตรวจสอบจดหมายเข้า
1.5 ให้ทำการเลือก"กล่องจดหมาย"สำหรับทำการตรวจสอบจดหมายว่ามีผู้ส่งมาหาหรือไม่โดยทำการเลือกและสามารถอ่านได้
1.6 ทำการเลือกข้อความของแต่ละจดหมายได้ในกรณีที่ต้องการลบ "ลบ"

การใช้งาน Blogger

           การเปิดใช้งานบล็อก ทำการ Login เข้ามาโดยใช้ E-mail และ Password เรียบร้อยแล้ว สิ่งแรกจะต้องพบก็คือ แผงควบคุม (Dashboard)

แผงควบคุม (Dashboard) เป็นหน้าที่รวม Blog ที่เราสร้างไว้ทั้วหมด รวมทั้งการเข้าถึง Blog นั้นๆ เพื่อแก้ไข หรือสร้างบทความใหม่ การปรับแต่ง ตั้งค่า และอื่นๆอีกมากมาย ซึงผมจะอธิบาย เมนู การใช้งานหน้าแผงควบคุม (Dashboard) ให้อย่างละเอียด เพื่อให้เพื่อนเข้าใจการใช้งาน Blogger ครับ เมนูต่างๆของหน้าตามรูป


1. E-mail ที่เราใช้สมัครเป็บ Username ของเราครับ

2. หน้าแผงควบคุม(Dashboard) ก็คือหน้านี้ที่กำลังอธิบาย

3. หน้า Account หรือหน้ารวมเครื่องมือต่างๆ ที่เราสมัครกับ Google เช่น E-mail, Blog, สามารถเปลี่ยนรหัสได้ในหน้านี้

4. ช่วยเหลือ เป็นการช่วยเหลือในส่วนต่างๆ ของ Blogger ที่ Google ทำไว้ให้เราครับ

5. ออกจากระบบ เป็นการ Logout ออกจากระบบการใช้งานเมื่อใช้งานสร็จครับ

6. เปลี่ยนภาษา ของบล๊อกเราทั้งระบบครับ

7. ประวัติของเรา สามารถปรับรูปภาพเกี่ยวกับเจ้าของครับ หรือโปรไฟล์ต่างๆ

8. สร้างบล๊อกใหม่ และช่วยเหลือตามข้อ 4 ครับ

9. ชื่อของบล๊อก หรือ Title ของบล๊อกเรา ที่เราตั้งค่าไว้ตอนสมัครครับ

10. ดูบล๊อกของเรา

11. สร้างบทความใหม่ให้กับบล๊อก

12. แก้ไขบทความ เป็นการแก้ไขบทความต่างๆ ที่เราสร้างไว้แล้ว สามารถแก้ไขได้ในส่วนนี้

13. การตั้งค่า เป็นการตั้งค่าต่างๆ เช่น ชื่อบล๊อก และอื่นๆอีกมากมายครับ

14. รูปแบบ เป็นการเปลี่ยนรูปร่างหน้าตาของบล๊อกเรา (Theme)

การตั้งค่าโพรไฟล์

การเปลี่ยนรูปภาพประจำตัว 
                 รูปภาพ (Picture) เป็นเครื่องมือของ Blogger อย่างนึ้งที่สามารถใส่ภาพและใส่รายละเอียดเกี่ยวกับรูป พร้อมทั้งสามารถส่ง Link รูปภาพไปยัง Url ที่เราต้องการได้แบบง่ายๆเลยครับ ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนเป็น Banner ได้ง่ายๆเลยในส่วนของ Gadget รูปภาพ (Picture) ถือว่ามีการตั้งค่าที่ง่ายดังนี้

เมื่อทำการเพิ่ม Gadget รูปภาพ (Picture) แล้วก็จะมาสู่การตั้งค่าดังรูป

การเขียนบล็อก
ส่วนของการสร้างบทความให้เข้าไปที่ "การส่งบทความ" หัวข้อ "สร้าง" และทำความเข้าใจเมนูและเครื่องมือต่างๆ ของการสร้างบทความใน Blogger เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน

ความเข้าใจเบื้องต้นในการสร้างบทความ
การสร้างบทความใช้พื้นฐาน Microsoft word คือเขียนอย่างไรก็จะออกมาอย่างนั้น แบ่งออกเป็น 2 ส่วน

   1. ส่วนของ "เขียน"
      ในส่วนนี้จะเหมือน Microsoft Word เกือบทุกๆอย่าง อยากเขียนอะไร อยากใช้ตัวหนา ตัวเอียง การใส่ Link เพียงแค่คลิ๊กเมนูการใช้งานด้านบน มีข้อเสียคือ เวลา Copy อะไรก็ตามแล้วนำมา Paste ลงในนี้ ลักษณะของของตัวอักษรจะเหมือนกับต้นแบบที่ Copy มาทุกอย่างครับ
   2. ส่วนของ "HTML"
      ส่วนนี้ต้องใช้ความรู้พอสมควรในการปรับแต่เนื้อหาหรือบทความที่เราเขียนให้ เป็นไปตามที่เราตั้งใจ ซึ้งต้องใช้ความรู้ภาษา HTML พอสมควร แต่ไม่ได้ยากเท่าไรครับ ข้อดีคือ สามารถปรับตามความต้องการของเราได้ทุกอย่าง เมื่อ Copy อะไรมาวาง ลักษณะตัวอักษรจะถูกปรับเป็นตัวอักษรปกติของบล๊อกเราครับ

    ข้อสังเกตุ:
    การ Copy อะไรมาวางถ้าไม่อยากให้ลักษณะผิดเพี้ยน ไม่ตรงตามรูปแบบที่สวยงาม ให้้ Copy แล้วทำมา Paste ในส่วนของ HTML ครับ ข้อความทั้งหมด จะถูกปรับให้การแสดงผลเป็นค่าปกติของบล๊อกเรา ไม่ใช่ตามลักษณะต้นแบบที่เรา Copy มาครับ

เครื่องมือต่างๆ ในการสร้างบทความ
Blogger มีเครื่องมือต่างๆมากมาย เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเขียบบทความได้ตามรูปแบบที่ตั้งใจ ดูตามดังรูป


   1. แบบอักษร สามารถเลือกตัวอักษรได้ตามต้องการ
   2. ปรับขนาดตัวอักษร ปรับขนาดความใหญ่หรือเล็กลง
   3. ตัวหนา
   4. ตัวเอียง
   5. สีของตัวอักษร
   6. ทำ Link ให้ข้อความ เราสามารถสร้าง Link ให้ข้อความได้โดยการ คลิ๊กคลอบข้อความที่เราต้องการแล้วกดที่เมนูนี้ ระบบจะให้ทำการใส่ URL (ที่อยู่ของ Link เช่น www.snook.com) เมื่อคลิ๊กที่ข้อความจะถูกส่งไปยังหน้าเว็บที่เราใส่ Link เข้าไป
   7. ทำบทความให้ชิดซ้าย
   8. ทำบทความให้อยู่กึ่งกลาง
   9. ทำบทความให้ชิดขวา
  10. ทำบทความให้ชิดทั้งขอบซ้ายและขวา
  11. ทำรายการเรียงลำดับเป็นตตัวเลข
  12. ทำรายการเรีนงลำดับเป็นจุด
  13. ใส่ "," ให้กับข้อความที่ต้องการเน้นคำพูด
  14. เพิ่มรูปภาพลงในบทความของเรา ระบบจะให้เราอัพโหลดไฟล์รูปภาพจากเครื่องคอมพิวเตอร์ของเรา สามารถปรับขนาดและจัดรูปแบบให้อยู่ ซ้าย,กลาง,ขวา ได้
  15. เพิ่ม Video เข้าไปในบทความของเราเช่นเดียวกับรูปภาพครับ
  16. ส่วนนี้เป็นการลบข้อความที่เราเขียนผิดพลาด ในส่วนนี้ไม่ค่อยได้ใช้เท่าไร หรือไม่ได้ใช้เลยก็ได้
  17. แก้ไข HTML ส่วนนี้ต้องใช้ความรู้พอสมควรในการปรับแต่เนื้อหาหรือบทความที่เราเขียนให้ เป็นไปตามที่เราตั้งใจ ซึ้งต้องใช้ความรู้ภาษา HTML พอสมควร
  18. หน้าที่ใช้เขียนบทความเหมือนการใช้งาน Microsoft Word
  19. แสดงตัวอย่างที่เราเขียนบทความ
  20. การใส่หัวข้อเรื่อง เช่น เรื่อง "การตกแต่งบ้างโดยใช้ต้นไม้ประดับ" หัวข้อก็คือ การตกแต่งบ้าน (บ่งบอกให้รู้ว่าเรื่องเกี่ยวกับอะไร)
  21. ทำการเผยแพร่บทความทันที บทความจะแสดงหน้าบล๊อกของเราทันที่ที่เราเผยแพร่
  22. บันทึก เป็นการบันทึกบทความไว้ก่อน จะยังไม่แสดงในหน้าบล๊อกของเรา เหมือนการร่างบทความ เราสามารถเข้าไปปรับเปลี่ยนทีหลังได้ใน "การแก้ไขบทความ"
 
การเผยแพร่

         ทำการกดปุ่ม "เผยแำพร่บทความ" สำหรับข้อความและเนื้อหาที่ทำการเขียนเรียบร้อบแล้วจะเป็นดังรูป






กระบวนการ input  process output

รับข้อมูลเข้า (Input)

              เริ่มต้นด้วยการนำข้อมูลเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์  ซึ่งสามารถผ่านทางอุปกรณ์ชนิดต่างๆ แล้วแต่ชนิดของข้อมูลที่จะป้อนเข้าไป เช่น ถ้าเป็นการพิมพ์ข้อมูลจะใช้แผงแป้นพิมพ์ (Keyboard) เพื่อพิมพ์ข้อความหรือโปรแกรมเข้าเครื่อง  ถ้าเป็นการเขียนภาพจะใช้เครื่องอ่านพิกัดภาพกราฟิค (Graphics Tablet) โดยมีปากกาชนิดพิเศษสำหรับเขียนภาพ หรือถ้าเป็นการเล่นเกมก็จะมีก้านควบคุม (Joystick) สำหรับเคลื่อนตำแหน่งของการเล่นบนจอภาพ เป็นต้น

ประมวลผลข้อมูล (Process)
            
              เมื่อนำข้อมูลเข้ามาแล้ว เครื่องจะดำเนินการกับข้อมูลตามคำสั่งที่ได้รับมาเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ การประมวลผลอาจจะมีได้หลายอย่าง เช่น นำข้อมูลมาหาผลรวม นำข้อมูลมาจัดกลุ่มนำข้อมูลมาหาค่ามากที่สุด หรือน้อยที่สุด เป็นต้น

แสดงผลลัพธ์ (Output)

               เป็นการนำผลลัพธ์จากการประมวลผลมาแสดงให้ทราบทางอุปกรณ์ที่กำหนดไว้โดยทั่วไปจะแสดงผ่านทางจอภาพ หรือเรียกกันโดยทั่วไปว่า "จอมอนิเตอร์" (Monitor) หรือจะพิมพ์ข้อมูลออกทางกระดาษโดยใช้เครื่องพิมพ์ก็ได้


การกระทำกับข้อมูล การรวบข้อมูล การจัดการข้อมูล

              การจัดเก็บข้อมูลที่มีปริมาณมากๆในระบบคอมพิวเตอร์โดยการเก็บไว้ในแฟ้มข้อมูลแต่ละแฟ้ม อาจเกิดปัญหาข้อมูลซ้ำซ้อนกัน เมื่อมีการแก้ไขข้อมูลที่มีอยู่หลายแฟ้มข้อมูล จนทำให้ข้อมูลมีความขัดแย้งกันเองจึงได้มีการเปลี่ยนการจัดเก็บข้อมูลให้อยู่ในรูปของฐานข้อมูลแทนเพื่อความสะดวกในการบันทึกข้อมูล แก้ไขข้อมูล และค้นหาข้อมูล

ความหมายของฐานข้อมูลและระบบการจัดการฐานข้อมูล

            “ ฐานข้อมูล ” (database) หมายถึง การจัดรวบรวมข้อนิเทศหรือข้อมูลของเรื่องต่างๆ ไว้ในรูปแบบที่จะเรียกมาใช้ได้ทันทีเมื่อต้องการ ในการเรียกนั้น อาจเรียกเพียงส่วนใดส่วนหนึ่งมาใช้ประโยชน์เป็นครั้งเป็นคราวก็ได้ ฐานข้อมูลที่ดีควรจะได้รับการปรับให้ทันสมัยอยู่เสมอ นอกจากนี้ ยังได้สรุปความหมายของฐานข้อมูล ว่าคือ กลุ่มของแฟ้มข้อมูลที่มีความสัมพันธ์กันและถูกนำมารวมกัน เช่น ฐานข้อมูลในบริษัทแห่งหนึ่งอาจประกอบไปด้วยแฟ้มข้อมูลหลายแฟ้มข้อมูล ซึ่งแต่ละแฟ้มต่างก็มีความสัมพันธ์กัน ได้แก่ แฟ้มข้อมูลพนักงาน แฟ้มข้อมูลแผนกในบริษัท แฟ้มข้อมูลขายสินค้า และแฟ้มข้อมูลสินค้า เป็นต้น
              สรุปได้ว่า “ระบบการจัดการฐานข้อมูล” คือ โปรแกรมที่ทำหน้าที่ในการกำหนดลักษณะข้อมูลที่จะเก็บไว้ในฐานข้อมูล อำนวยความสะดวกในการบันทึกข้อมูลลงในฐานข้อมูล กำหนดผู้ที่ได้รับอนุญาตให้ใช้ฐานข้อมูลได้ พร้อมกับกำหนดด้วยว่าให้ใช้ได้แบบใด เช่น ให้อ่านข้อมูลได้อย่างเดียวหรือให้แก้ไขข้อมูลได้ด้วย นอกจากนั้นยังอำนวยความสะดวกในการค้นหาข้อมูล และการแก้ไขปรับปรุงข้อมูล ทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงข้อมูลได้ง่าย สะดวกและมีประสิทธิภาพ เสมือนเป็นตัวกลางระหว่างผู้ใช้กับฐานข้อมูลให้สามารถติดต่อกันได้



ระบบการสื่อสาร

                  ระบบเครือข่าย (Network System) หมายถึง การเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ ตั้งแต่ 2 เครื่องขึ้นไปเข้าด้วยกัน เช่น การเชื่อมต่อเครื่องคอมพิวเตอร์ภายในห้องเรียน ภายในองค์กร ระหว่าง อาคาร ระหว่างเมืองต่าง ๆตลอดไปจนถึงการเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ทั่วทั้งโลกที่เรียกว่า "อินเทอร์เน็ต" (Internet) ด้วยเหตุนี้การติดต่อสื่อสารข้อมูลในปัจจุบันมีรากฐานมาจากความพยายามในการเชื่อมต่อระหว่างคอมพิวเตอร์ กับคอมพิวเตอร์เข้าด้วยกันโดยอาศัยระบบการสื่อสาร   ต่อมาเมื่อมีการใช้คอมพิวเตอร์มากขึ้นความต้องการในการ ติดต่อระหว่างคอมพิวเตอร์หลายเครื่องในเวลาเดียวกัน เรียกว่า ระบบเครือข่าย (Network System)

             ประโยชน์ของการสื่อสารข้อมูล
           1.  จัดเก็บข้อมูลได้ง่ายและสื่อสารได้รวดเร็ว
           2.  ความถูกต้องของข้อมูล
           3.  ความเร็วของการทำงาน
           4.  ประหยัดต้นทุน


          Homepage คือ เว็บเพจหน้าแรกของเว็บไซต์จะมี ความสวยงามเป็นพิเศษ เพื่อดึงดูดความ
สนใจ   ของผู้เข้าชมเว็บไซต์และมีจุด เชื่อมโยงไปยังเว็บเพจหน้าต่าง ๆ
         
         Webpage คือ หน้าเอกสารต่าง ๆที่ใช้เผยแพร่ ข้อมูล ข่าวสาร ของบุคคล องค์กร หรือ หน่วยงานต่าง ๆ
        
         Website   คือ กลุ่มของเว็บเพจหลาย ๆ หน้า โดยมี โฮมเพจเป็นเว็บเพจหน้าแรก  ที่มีความ สวยงาม เพื่อดึงดูดความสนใจของผู้เข้า ชมเว็บไซต์ และเว็บไซต์หมายถึง แหล่ง ข่าวสาร  ข้อมูลของบุคคล  องค์กร  หรือ หน่วยงานต่างๆ บนระบบอินเทอร์เน็ต

หลักการและการทำงาน
         รู้จักกับ World Wide Web คำว่า World Wide Web หรือ WWW นั้นหลายๆ คนมักจะเข้าใจผิดไปว่ามันมีความหมายเดียวกับ Internet แต่จริงๆ แล้ว WWW นั้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของ Internet เท่านั้น เหมือนๆ กับ E-mail, News และ FTP นั่นเอง โดยหน้าที่แล้ว WWW นั้นก็ทำหน้าที่เป็นเสมือนแหล่งข้อมูล เป็นสถานที่สำหรับค้นหาข้อมูล รวมทั้งเผยแพร่ข้อมูลด้วย เราลองมาดูคุณลักษณะของ WWW กันก่อน ว่าเป็นอย่างไร
    
        ความสามารถในแบบ Hypertext Information System
การแสดงผลข้อมูลจะมีลักษณะพิเศษกว่า ถ้าเทียบกับหนังสือแล้ว ในรูปแบบของ Hypertext นั้น คุณสามารถเชื่อมโยงคำต่างๆ ให้ชี้ไปยังข้อมูลอื่นๆ ที่ต้องการได้ ซึ่งถ้าเป็นหนังสือนั้นไม่สามารถทำได้

      นำเสนอในแบบข้อมูลตัวอักษร และรูปภาพ เข้าใจง่าย ในการนำเสนอข้อมูล ไม่เพียงแต่เป็นตัวอักษร แต่สามารถใช้รูปภาพเป็นสื่อได้ด้วย ทำให้ง่ายต่อการทำความเข้าใจ อีกทั้งยังช่วยให้ดูสวยงาม น่าอ่านขื้นด้วย สามารถใช้ในงาน Presentation ได้
     
      รองรับกับทุกระบบ ไม่ว่าคุณจะทำงานอยู่บนระบบปฎิบัติการใดๆ ก็ตาม ถ้าคุณสามารถเชื่อมต่อเข้าสู่ Internet ได้ คุณก็สามารถอ่านข้อมุลจาก WWW ได้ โดยทั่วไประบบปฏิบัติการที่ใช้กันอยู่ เช่น UNIX, WINDOWS, MAC ทั้งหมดนี้สามารถทำงานได้อย่างไม่มีปัญหา
    
     ง่ายต่อการเผยแพร่ข้อมูล ถ้าคุณต้องการให้ข้อมูลของคุณถูกเผยแพร่ออกไป เพื่อให้เป็นที่รู้จัก หรือเป็นประโยชน์ในการค้นคว้าให้กับผู้อื่นละก็ คุณสามารถทำได้โดยง่าย กับ WWW ข้อมูลที่คุณสร้างขึ้น ทุกๆ คนที่เล่น WWW สามารถที่จะเข้ามาขอดูข้อมูลของคุณได้โดยง่าย โดยที่คุณไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการจัดทำเอกสาร หรือทำเป็นหนังสือเพื่อเผยแพร่ข้อมูลของคุณ
    
     การปรับปรุง แก้ไขข้อมูล ทำได้ง่าย ข้อมูลต่างๆ อยู่ในรูปแบบที่ง่ายต่อการเปลี่ยนแปลง สำหรับเจ้าของข้อมูล เมื่อต้องการเปลี่ยนแปลงข้อมูล ก็เพียงแต่ใช้ Editor Program ธรรมดา แก้ไขข้อมูลที่ถูกเก็บอยู่ในรูป Text file เพียงเท่านี้ ข้อมูลที่ถูกปรับปรุงใหม่ ก็พร้อมสำรับการนำเสนอแล้ว

    สามารถตอบสนองกับผู้ใช้ได้ เมื่อคุณสร้างการเชื่อมโยงให้กับข้อมูลของคุณ นั่นก็หมายความว่า มันสามารถตอบโต้กับผู้ใช้ได้แล้ว นอกจากนี้ คุณยังสามารถทำมันให้เป็นแบบสอบถาม เพื่อรับข้อมูลจากผู้ที่เข้ามาชมได้อีกด้วย จากคุณลักษณะของ WWW ซึ่งเป็นเพี่ยงส่วนหนึ่งเท่านั้น จะเห็นได้ว่า เราสามารถใช้ประโยชน์จากมันในแง่ของการนำเสนอข้อมูล เผยแพร่ข่าวสาร โต้ตอบกับผู้ใช้ได้เป็นอย่างดี จึงไม่แปลกเลย ที่ทุกวันนี้มีข้อมูลข่าวสารมากมาย ปรากฎเพิ่มเติมอยู๋ใน WWW แทบจะทุกนาทีก็ว่าได้ แต่ก็แน่นอน ข้อมูลข่าวสารอันมากมายนี้ ถ้าผู้สร้างขาดความรับผิดชอบในเรื่องความถูกต้องของข้อมูล นำเสนอแต่ข้อมูลที่ไม่สร้างสรรค์ละก็ อีกหน่อย WWW ก็จะกลายเป็นที่เก็บขยะขนาดใหญ่เท่านั้นเอง


นวัตกรรม  (Innovation) คือ ความคิด การปฏิบัติ หรือสิ่งประดิษฐ์ใหม่ ๆ ที่ยังไม่เคยมีใช้มาก่อน หรือเป็นการพัฒนาดัดแปลงมาจากของเดิมที่มีอยู่แล้ว ให้ทันสมัยและใช้ได้ผลดียิ่งขึ้น  เมื่อนำ  นวัตกรรมมาใช้จะช่วยให้การทำงานนั้นได้ผลดีมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงกว่าเดิม ทั้งยังช่วย ประหยัดเวลาและแรงงานได้ด้วย  

เทคโนโลยี(Technology)ใน การจัดการเรียนการสอนเช่นโรงเรียนที่มีคอมพิวเตอร์ใช้คอมพิวเตอร์ให้นัก เรียนได้ศึกษาหาความรู้ด้วยการปฏิบัติตามขั้นตอน นักเรียนปฏิบัติตามขั้นตอนของการเรียนรู้ที่ซอฟแวร์ในคอมพิวเตอร์สั่งการตาม ลำดับขั้นการใช้วิธีโอเทปการใช้วิทยุใช้โทรทัศน์ช่วยสอนรับบทเรียนทางไกล ของกรมการศึกษานอกโรงเรียน กระทรวงศึกษาธิการ เช่น การรับบทเรียนของมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช เป็นการอาศัยการใช้เครื่องช่วยสอน

การสมัครใช้งาน Gmail
ขั้นตอนการสมัคร
            การสมัคร Gmailไม่มีอะไรยุ่งยากมากนัก เพียงแต่กรอกข้อมูลตามที่แบบฟอร์มเท่านั้นตามขั้นตอนดังนี้เลย
           ขั้นตอนแรก พิมพ์ http://www.gmail.comจากนั้นจะปรากฏหน้าต่าง/ ดังภาพ

20 ความคิดเห็น:

  1. สรุปผลการเรียนครั้งที่ 1 ได้ดีมาก ๆๆ

    ตอบลบ
  2. เนื้อหาเยอะมาก ใช้ประโยชน์ได้จริงๆ
    แวะไปเที่ยวบล๊อกไหมบ้างนะ
    http://maipussadee.blogspot.com/

    ตอบลบ
  3. โอ้โห้เนื้อหาเยอะมากคะ

    ตอบลบ
  4. เม้นแล้วเม้นกลับให้หน่อยจร้า ใครเม้นกลับขอให้ได้เกรด A ถ้าไม่เม้นกลับขอให้ได้เกรด B

    ตอบลบ
  5. ตัวเล็กมาก แต่คนทำไม่เล็ก... เม้นกลับบ้างนะ...

    ตอบลบ
  6. โอ้โห เนื่อหาอัดแน่นจริงๆครับ
    อย่างนี้ทำพิมพ์แจกหรือขายได้เลยนะครับ

    ตอบลบ
  7. เนื้อหาชัดเจนดีมากค่ะ

    ตอบลบ
  8. สวัสดีค่ะน้องเกษที่น่ารัก (มากๆ)

    ตอบลบ
  9. ดีค่ะ อธิบายรายละเอียดดีมากๆ เข้าใจง่าย

    ตอบลบ
  10. ok ค่ะ แต่พยายามจับภาพหน้าจอ ให้เข้มกว่านี้ จะดีค่ะ เพราะการทำแบบนี้ นักเรียนสามารถเอาไปใช้เรียนได้ หรือ เอาไปทำวิจัยในชั้นเรียนได้น่ะ

    ตอบลบ
  11. ขอยกนิ้วให้เลยสำหรับความขยันและตั้งใจเรียนของคุณ เยี่ยมมาก

    ตอบลบ
  12. บล็อกสวย รูปแบบดี รายละเอียดเพียบ ครบเครื่องจริง ยอดเยี่ยมๆ

    ตอบลบ
  13. สวยงามมากเลย.......เนื้อหาชัดเจน
    น่าสนใจดี.............สวยงามเหมือนตัวเองเลยนะครับพี่

    ตอบลบ
  14. เข้าใจ แจ่มเลย กับการสร้าง Blog ดีมากค่ะ

    ตอบลบ